หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเว็บไซต์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเว็บไซต์
เว็บไซต์ (Website) คือ หน้าเว็บเพจ (Web Page) ที่จัดทำขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เป็นการรวบรวม หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทาง ไฮเปอร์ลิงค์ (Hyperlink) ซึ่งต้องเปิดด้วยโปรแกรมเฉพาะทางที่เรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) โดยจะถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web, WWW) โดยการกำหนดยูอาร์แอล (URL หรือ Universal Resource Locator) ที่อยู่เว็บแบบสมบูรณ์ที่ใช้ค้นหาหน้าเว็บที่เฉพาะเจาะจง ขณะที่โดเมนเนม (Domain Name) คือชื่อของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เนื่องจาก ไอพีแอดเดรส (IP Address) นั้นจดจำได้ยาก และเมื่อเจ้าของเว็บไซต์มีการเปลี่ยนแปลงไอพีแอดเดรส ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือจดจำไอพีแอดเดรสใหม่ ยังคงใช้โดเมนเนมเดิมได้ต่อไป
สรุปว่า เว็บไซต์ (Website) คือ หน้าเว็บเพจ (Web Page) ที่จัดทำขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต โดยสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) และควรระวังความเป็นส่วนตัวในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ
เว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บ และมีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษา HTML ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ นอกจากนี้ยังสามารถดูเอกสารในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ ไม่ว่าเว็บเหล่านั้นจะแสดงข้อมูลในลักษณะของภาพ ระบบมัลติมีเดีย รูปภาพหรือข้อความ ในปัจจุบันเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับระบบ HTML 5 สามารถอ่าน CSS 3 ได้อย่างสวยงาม และกำลังได้รับความนิยมมากที่สุด ก็มี 4 ประเภทดังนี้
Internet Explorer
Mozilla Firefox
Google Chrome
Safari
โฮมเพจ (Home Page) ก็คือหน้าแรกของเว็บไซต์เมื่อเปิดเข้าไปยังเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง โดยหน้าแรกนี้จะรวมเมนูและเรื่องราวต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากหน้าแรกมีการออกแบบได้อย่างสวยงามและจัดหน้าอย่างเป็นระเบียบก็จะทำให้ผู้ชมเกิดความสนใจและอยากเข้าชมเว็บมากขึ้น
เว็บเพจ (Web Page) ก็คือหน้าเอกสารต่างๆ ที่อยู่ในรูปของ HTML โดยจะนำเสนอข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆ เป็นหน้าๆ ไป และใช้การเชื่อมโยงเพื่อให้สามารถคลิกไปหน้าเว็บเพจแต่ละหน้าได้ง่ายขึ้น
เว็บ Static คือเว็บที่แสดงผล เพื่อให้ความรู้หรือข้อมูลแก่ผู้เข้าชมเว็บเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโต้ตอบหรือรับส่งข้อมูลกับผู้ที่เข้าชมเว็บได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์ประเภทนี้ ก็จะเป็นเว็บ Gallery รูปภาพ เว็บของบริษัทหรือองค์กรต่างๆ และเว็บให้ความรู้ทั่วไป
เว็บ Dynamic เป็นเว็บไซต์ที่สามารถตอบโต้ และรับส่งข้อมูลระหว่างผู้เข้าชมกับเว็บไซต์ได้ ซึ่งเว็บเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะมีระบบเว็บบอร์ด รวมไปถึง Social Media ประเภทต่างๆ มีการสมัครสมาชิก หรือเป็นเว็บขายสินค้าออนไลน์ที่มีระบบแชทกับผู้ขาย เป็นต้น
Web Service เป็นบริการด้านข้อมูล ที่สามารถดึงข้อมูลของอีกเว็บหนึ่งไปแสดงผลในอีกเว็บหนึ่งได้
Hosting เป็นพื้นที่ของคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ที่ทางผู้ให้บริการได้ทำการจัดสรรมาให้เช่า โดยส่วนใหญ่จะมีการให้เช่าเป็นแบบรายเดือน รายปีหรือตามแต่ผู้ให้บริการกำหนด
อินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อให้ผู้คนสามารถท่องเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้กลุ่มองค์กร ธุรกิจหรือบริษัทสามารถนำเสนอข้อมูลของตนลงบนอินเทอร์เน็ต ผ่านทางเว็บไซต์ เป็นการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนประกอบของหน้าเว็บไซต์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1.ส่วนหัวของหน้า (Page Header)
เป็นส่วนที่อยู่บนสุดของหน้า และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของหน้า ส่วนใหญ่ประกอบด้วยโลโก้ (Logo) เป็นสิ่งที่เว็บไซต์ควรจะมีและทำให้เว็บของเรามีความน่าเชื่อถือชื่อเว็บไซต์เมนูหลักหรือลิงค์ (Navigation Bar) เป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่เนื้อหาของเว็บไซต์
2. ส่วนของเนื้อหา (Page Body)
เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางของหน้าเพจ ใช้แสดงข้อมูลเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งประกอบด้วยข้อความ ตารางข้อมูล ภาพกราฟิก วีดีโอ และอื่นๆ อาจมีเมนูเฉพาะกลุ่มวางอยู่ในส่วนนี้ด้วยสำหรับส่วนเนื้อหาควรแสดงใจความสำคัญที่เป็นหัวเรื่องไว้บนสุด ใช้รูปแบบตัวอักษรที่อ่านง่าย และจัด Layout ให้เหมาะสมและเป็นระเบียบ
3. ส่วนท้ายของหน้า (Page Footer)
เป็นส่วนที่อยู่ด้านล่างสุดของหน้า จะมีหรือไม่มีก็ได้ ส่วนมากเอาไว้แสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ โลโก้ แผนที่ ข้อความแสดงลิขสิทธิ์ คำแนะนำการใช้เว็บไซต์ เป็นต้น
รู้จัก 9 ประเภทของเว็บไซต์และรูปแบบการใช้งาน
1. Personal Website
Personal Website คือ เว็บไซต์ส่วนบุคคล มักจะเป็นเว็บไซต์รูปแบบแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคแรกของ World Wide Web (www) โดยจะมีลักษณะเป็นเหมือนสมุดไดอารี่ มีการใส่ข้อมูลส่วนตัว เล่าเรื่องที่พบเจอมาในแต่ละวัน ถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงแสดงผลงานต่าง ๆ ของตัวเองด้วย ตัวอย่างเช่น Brandon Johnson, Gary Sheng, Quinnton Harris เป็นต้น
2. E-Commerce Website
E-Commerce Website คือ เว็บไซต์ที่เอาไว้ซื้อขายสินค้าโดยเฉพาะที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และมีการใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งบนเว็บไซต์ก็จะมีข้อมูลรายละเอียดของสินค้า รูปภาพ รวมถึงลูกค้าสามารถกดจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ได้โดยตรงเลย ตัวอย่างเช่น Pomelo, Uniqlo, Adidas, Under Amour เป็นต้น
3. Business Website
Business Website คือ เว็บไซต์ธุรกิจที่เน้นการประชาสัมพันธ์ของธุรกิจ หรือนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นสำหรับลูกค้า เช่น มีการแนะนำสินค้าหรือบริการ มีการสรุปข้อดี จุดเด่นของสินค้า รวมถึงสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ตัวอย่าง Business Website เช่น WIRTUAL, Hubspot, Zapier เป็นต้น
4. Blog Website
Blog Website คือ เว็บไซต์ที่เน้นการนำเสนอบทความและเนื้อหาเป็นหลัก โดยบทความส่วนมากจะถูกเรียงลำดับเวลาในการเขียนเอาไว้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ตามเวลาที่ลง และโดยส่วนมาก Blog Website มักจะมีการใช้ระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ใช้งานสามารถจัดการและออกแบบคอนเทนต์ได้อย่างง่ายดาย ทั้งการแก้ไข ปรับเปลี่ยน รูปแบบ Format ต่าง ๆ บน CMS ได้โดยที่ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคหรือการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด สำหรับตัวอย่าง Blog Website ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกลเลย เพราะ The Growth Master ก็เป็นหนึ่งใน Blog Website เหมือนกัน และนอกเหนือจากนี้ก็มี Medium, Mushable, TED Blog เป็นต้น
5. Portfolio Website
Portfolio Website คือ เว็บไซต์ที่เอาไว้สร้างและเผยแพร่แฟ้มสะสมงานของผู้ใช้งาน ซึ่งบางครั้งหลายคนก็จะสร้าง Portfolio Website เพื่อเอาไว้สมัครงานอีกด้วย ตัวอย่างเว็บไซต์เช่น Wix, Behance เป็นต้น
6. Membership Website
Membership Website คือ เว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกก่อน ถึงจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาข้อมูลเฉพาะในเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ เช่น Netflix, Disney+ Hotstar, Onlyfans เป็นต้น
7. Non-profit Website
Non-profit Website คือ เว็บไซต์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีนโยบายในการสร้างและช่วยเหลือสังคมเป็นหลัก โดยส่วนมากจะเป็นเว็บไซต์ของหน่วยงาน สมาคม ชมรม มูลนิธิ หรือโครงการต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะทางที่แตกต่างกันไป เช่น พิทักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องสิทธิมนุษยชน การรณรงค์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น UNICEF, Heart to Heart, Defenders
8. Information Website
Information Website คือ เว็บไซต์ที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลความรู้ที่หลากหลาย หรือการใช้คำจำกัดความในการค้นหา รวมถึงเว็บไซต์ที่เจาะจงให้ข้อมูลในด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะ เช่น Wikipedia
9. Online Forum Website
Online Forum Website คือ เว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นในการเป็นชุมชนออนไลน์ เพื่อให้มีการพูดคุยหรือปฏิสัมพันธ์กันบนเว็บไซต์ โดยภายใน Online Forum นั้นจะมีการแบ่งแยกย่อยเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ตามความสนใจของแต่ละกลุ่ม เช่น เครื่องสำอางค์ เทคโนโลยี เกมออนไลน์ ทำอาหาร รวมถึงอื่น ๆ ซึ่งถ้าหากยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ Forum Online ในบ้านเรา เช่น Pantip, Dek-d แต่ถ้าเป็นของต่างประเทศ เช่น Reddit เป็นต้น